ราคาทองคำวันนี้
- ราคาทองคำแท่งวันนี้รับซื้อบาทละ18,300.00
- ทองคำแท่งขายบาทละ18,400.00
- ราคาทองรูปพรรณวันนี้รับซื้อบาทละ18,040.40
- ทองรูปพรรณขายบาทละ18,800.00
วิธีลงทุนในทองคำ
การลงทุนในทองคำ
โดยเป็นกระแสที่นักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความนิยมเป็นอย่างมากนั้น เพราะนักลงทุนศักยลงทุนได้ทั้งทางตรงกับทางอ้อมนั้น ด้วยเหตุผลที่มีอย่างมากมายที่ทำเป็นดึงดูดนักลงทุนได้ เช่น การปรับตัวเพิ่มขึ้นของสนนราคาทองคำตามสถิติตั้งแต่ปี 2001 นั้นสนนราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 150% ของความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นจากกำลังการผลิตที่ลดลง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้ค่าทองปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องใน ช่วงที่ทะลวงมานั้น แม้ว่าขณะนี้สนนราคาทองจะปรับตัวลดลงก็ตาม ความนิยมในการลงทุนก็มิได้ลดน้อยลงเลย บทความนี้ก็ใคร่จักพูดในทั้ง 2 มุมมองของการลงทุนในทองคำไม่ว่าทางตรงโดยการซื้อทองคำแท่งเองนั้นกับการลงทุนเพราะว่าอาศัยความชำนาญของผู้บริหารกองทุน
1. การลงทุนโดยตรง
เพราะว่านักลงทุนส่วนใหญ่แล้วจะนิยมซื้อทองคำแท่ง ไม่ใช่หรือทองรูปพรรณมาเก็บไว้ ช่วงที่ทะลุทะลวงมาสนนราคาขึ้นแรงๆคนก็เอาไปขาย บางช่วงที่ค่าปรับลดลงนั้นคนก็ไปซื้อเก็บไว้เพื่อเก็งกำไร การที่นักลงทุนจักตกลงใจซื้อไม่ก็ขายนั้นผมต้องประสงค์แนะนำให้ท่านได้ติดตามสถานการณ์พร้อมด้วยปัจจัยต่างๆที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำด้วยนั้นเช่น ในช่วงที่ทะลวงมาราคาทองปรับตัวสูงขึ้นเพราะว่าอะไรด้วยกันเราก็ต้องไปดูพร้อมกับศึกษาว่า Demand และ Supply นั้นสะท้อนให้เห็นถึงมูลค่าเหรอราคาสุทธิของทองคำไหมไม่ใช่หรือเป็นเพราะเกิดจากการเก็งกำไรของ Hedge Fund อย่างที่เปลี่ยนมาในไม่กี่เดือน ตัวอย่างที่ข้ามมาด้วยว่าสถานการณ์การซื้อขายทองคำในช่วงสงกรานต์นั้น จักเห็นได้ว่าความต้องการซื้อทองคำปรับตัวลดลงซึ่งเป็นผลมาจากราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากและค่าสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ด้วยกันอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นตามด้วอย่างไรก็ดีพร้อมทั้งการลงทุนในทองคำก็ถือเป็นการลงทุนที่ใช้ในการลดผลกระทบจากเงินเฟ้อได้เหตุเพราะถ้าเรามองราคาทองคำระยะยาวแล้วทองคำก็ยังคงมีมูลค่าสูงอยู่ดี แม้ปรับลดด้วยอัตราเงินเฟ้อแล้วก็ตาม
2. การลงทุนตัดผ่านกองทุนรวม
โดยซึ่งถือเป็นการอาศัยความเชี่ยวชาญของ บลจ. ต่างๆ ซึ่งเท่าที่มีอยู่ในช่วงนี้นั้น เช่น TMB Gold Fund, ING Golden Star link, BT FIF Golden link เป็นต้นนั้นอย่างที่เราทราบกันดี การลงทุนในกองทุนรวมมีขั้นตอนในการปลงใจพิจารณาหามูลค่าของการลงทุนนั้นๆด้วย ก่อนปลงใจซื้อหรือว่าขาย โดยกลยุทธ์การซื้อขายของกองทุนเท่าที่ผมเข้าใจจักใช้การบริหารเชิงรับ (Passive Investment Strategy) เพราะว่าเป็นการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศอีกทีฉะนั้นการลงทุนอย่างนี้ก็ถือเป็นกองทุน FIF อย่างหนึ่ง ถ้าถามว่าปัจจัยใดที่มีผลกระทบต่อเงินลงทุนของกองทุนชนิดนี้คำตอบคือความผันผวนของสนนราคาทองคำรวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนนั้นเพราะว่ารอบรู้แบ่งออกเป็น 2 ความเสี่ยงด้วยกันด้วย
1) ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าทองคำ (Price Risk)
นั้นหมายถึง โอกาสที่ค่าทองในตลาดโลกจักเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ลดต่ำลงในช่วงระยะเวลาสั้นๆหรือไม่ก็ระยะยาวในบางครั้งเช่นในช่วงที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆขายเงินทุนสำรองที่เก็บในทองคำออกมาในตลาดจนทำให้ราคาทองในตลาดโลกลดต่ำลง ทั้งนี้ ต่างว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจะส่งผลกระทบต่อกองทุน เนื่องจากมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนมีการเปลี่ยนแปลงตามค่าทองในตลาดโลกดังนั้นถ้าหากมูลค่าทองในตลาดโลกลดลงจักส่งผลทำให้มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนลดลงได้อย่างไรนั้นก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของสนนราคาทองคำนั้นมีความเป็นอิสระจากการเปลี่ยนแปลงจากการลงทุนการลงทุนในตราสารทุนหรือไม่ตราสารหนี้นั้น ทั้งนี้ จากข้อมูลทางสถิติย้อนหลังที่ทำการศึกษาทั้งในด้วยกันต่างประเทศแสดงให้เห็นว่า ผลตอบแทนของราคาทองคำมีค่าความสัมพันธ์กับผลตอบแทนจากการลงทุนในสภาวะที่คาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารทุนนั้นหรือตราสารหนี้มีแนวโน้มลดลง
2) ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Risk)
โดยความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทนั้นครั้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลต่างประเทศอื่นแล้ว กล่าวคือ สมมติว่าค่าเงินบาทมีค่าแข็งขึ้นจากวันที่กองทุนเข้าลงทุนครั้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ที่เข้าลงทุนนั้น เช่น จาก 33 บาท ต่อ1ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 31 บาท จะทำให้กองทุนได้รับดอกเบี้ยตามงวดพร้อมทั้ง/หรือว่าเงินต้นตราบใดครบกำหนดนั้นของตราสารเป็นเงินบาทในจำนวนที่น้อยลงซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนของการลงทุนต่ำกว่าที่คาดไว้ในทางกลับกันด้วย สมมุติค่าเงินบาทมีค่าอ่อนลงนั้น เช่น จาก 33 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 35 บาท จักทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนขณะคำนวณเป็นสกุลเงินบาทมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น